สวัสดีครับทุกท่าน! ในฐานะที่เป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่กับการผสมผสานความรู้ด้านบัญชีภาษี กฎหมายธุรกิจ และการวิเคราะห์ทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาอย่างยาวนาน ผมเข้าใจดีว่าการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee และ Lazada ไม่ได้ง่ายแค่การลงสินค้าแล้วรอรับเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องรับมือกับโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การไม่เข้าใจค่าใช้จ่ายเหล่านี้อย่างถ่องแท้ อาจทำให้ธุรกิจของคุณขาดทุนโดยไม่รู้ตัว หรือที่เรียกว่า ‘เข้าเนื้อ’ นั่นเองครับ
บทความนี้จะช่วยให้คุณถอดรหัสค่าธรรมเนียมต่างๆ บน Shopee และ Lazada พร้อมนำเสนอแนวทางการคำนวณต้นทุนและกำไรอย่างแม่นยำ เพื่อให้คุณสามารถตั้งราคาขายที่เหมาะสม บริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมั่นใจได้ว่าทุกการขายจะนำมาซึ่งกำไรที่ยั่งยืน

สามหัวใจสำคัญสู่การทำกำไรบนแพลตฟอร์ม

  • เข้าใจโครงสร้างค่าธรรมเนียม: การรู้จักค่าธรรมเนียมแต่ละประเภทและวิธีการคำนวณของทั้ง Shopee และ Lazada คือจุดเริ่มต้นสำคัญในการบริหารจัดการต้นทุน
  • คำนวณกำไรอย่างแม่นยำ: ใช้สูตรและเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อรวมทุกค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าสินค้า ค่าธรรมเนียม หรือค่าขนส่ง เพื่อให้ได้กำไรสุทธิที่แท้จริง
  • ปรับกลยุทธ์ตามการเปลี่ยนแปลง: แพลตฟอร์มมีการปรับค่าธรรมเนียมบ่อยครั้ง การติดตามและปรับกลยุทธ์อยู่เสมอ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณไม่เสียเปรียบและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ทำไมต้องถอดรหัสค่าธรรมเนียม?

การเข้าใจค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มเป็นมากกว่าแค่การทำบัญชี แต่เป็นหัวใจสำคัญในการวางแผนธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ลองนึกภาพว่าคุณตั้งราคาขายสินค้าโดยไม่ได้รวมค่าธรรมเนียมเหล่านี้เข้าไปอย่างครบถ้วน ผลลัพธ์คือคุณอาจขายสินค้าได้ แต่เมื่อหักลบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว กลับเหลือผลกำไรน้อยกว่าที่คาด หรือร้ายกว่านั้นคือขาดทุน
การถอดรหัสค่าธรรมเนียมทำให้คุณสามารถ:

  • ตั้งราคาได้อย่างชาญฉลาด: ไม่ใช่แค่ตั้งราคาให้แข่งขันได้ แต่ต้องเป็นราคาที่ครอบคลุมต้นทุนทั้งหมดและให้กำไรตามที่ต้องการ
  • ประเมินความคุ้มค่า: สินค้าบางประเภทอาจมีค่าธรรมเนียมที่สูง การคำนวณล่วงหน้าช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าจะขายสินค้านั้นบนแพลตฟอร์มใด หรือควรปรับกลยุทธ์อย่างไร
  • วางแผนการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ: เมื่อรู้โครงสร้างต้นทุนที่ชัดเจน คุณจะสามารถจัดโปรโมชัน เข้าร่วมแคมเปญ หรือให้ส่วนลดได้อย่างมั่นใจ โดยไม่เสี่ยงต่อการขาดทุน
  • บริหารกระแสเงินสด: การคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าช่วยให้การบริหารสภาพคล่องของธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น

เจาะลึกค่าธรรมเนียมหลักบน Shopee และ Lazada

แม้ว่าทั้งสองแพลตฟอร์มจะมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่คล้ายคลึงกัน แต่รายละเอียดและอัตราอาจแตกต่างกันไปตามประเภทผู้ขาย หมวดหมู่สินค้า ประเทศที่ทำการค้า และโปรแกรมส่งเสริมการขายที่เข้าร่วม สิ่งสำคัญคือต้องอ้างอิงข้อมูลล่าสุดจาก Seller Center ของแต่ละแพลตฟอร์มในประเทศของคุณ

ค่าธรรมเนียม Shopee

Shopee มีค่าธรรมเนียมหลายประเภทที่ผู้ขายต้องทำความเข้าใจ:

ค่าคอมมิชชัน (Commission Fee)

ค่าธรรมเนียมนี้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้าที่ขายได้หลังหักส่วนลดที่ผู้ขายสนับสนุน โดยอัตราจะแตกต่างกันไปตามหมวดหมู่สินค้าและสถานะผู้ขาย (เช่น Marketplace Seller, Shopee Mall Seller) ในปี 2025 มีแนวโน้มที่ค่าคอมมิชชันจะปรับเพิ่มขึ้นในบางตลาด เช่น ในสิงคโปร์สำหรับผู้ขายทั่วไปอาจสูงถึง 7.63% หรือในบางกรณี ผู้ขายใหม่บางรายอาจได้รับอัตรา 0% ในช่วงเริ่มต้นเพื่อกระตุ้นการขาย

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (Transaction Fee)

ค่าธรรมเนียมนี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการประมวลผลการชำระเงิน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดรวมที่ผู้ซื้อชำระ รวมถึงค่าจัดส่งและส่วนลดต่างๆ โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 2% ถึง 3.78% (รวม VAT หรือ SST) ตัวอย่างเช่น ในมาเลเซีย อัตราอยู่ที่ 3.78% (รวม 8% SST) ของยอดรวมคำสั่งซื้อ

ค่าธรรมเนียมบริการ (Service Fee)

เป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บหากผู้ขายเข้าร่วมโปรแกรมพิเศษของ Shopee เช่น โปรแกรม Cashback หรือ Free Shipping อัตราค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะคิดจากต้นทุนสินค้าที่ขาย (Cost of Goods Sold – COGS) หรือยอดขายตามเงื่อนไขของโปรแกรม ตัวอย่างเช่น โปรแกรม Cashback อาจมีค่าบริการ 3.36% และโปรแกรม Free Shipping 5.6% โดยอาจมีเพดานค่าธรรมเนียมต่อชิ้น

ค่าขนส่ง (Shipping Fee)

แม้ผู้ซื้อจะเป็นผู้จ่ายค่าจัดส่งเป็นหลัก แต่ผู้ขายก็ต้องทำความเข้าใจวิธีการคำนวณ โดย Shopee จะคำนวณค่าจัดส่งตามน้ำหนักปริมาตร (Volumetric Weight) ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามบริษัทขนส่ง นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมสำหรับการจัดส่งที่ดำเนินการโดย Shopee เอง (Fulfilled by Shopee) ซึ่งอาจรวมค่าจัดเก็บและจัดการด้วย

ค่าธรรมเนียม Lazada

Lazada ก็มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่คล้ายคลึงกัน แต่มีรายละเอียดเฉพาะที่ควรทราบ:

ค่าคอมมิชชัน (Commission Fee)

คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้าที่ขายได้หลังหักส่วนลด อัตราจะแตกต่างกันไปตามหมวดหมู่สินค้าและประเภทผู้ขาย สำหรับ LazMall Sellers อัตราอยู่ระหว่าง 4% ถึง 7% ในขณะที่สินค้าบางประเภท เช่น สินค้าดิจิทัล อาจสูงถึง 21.5% และสินค้าอุปโภคบริโภค 16% สำหรับผู้ขายทั่วไปในบางประเทศอาจมีอัตราที่ต่ำกว่า เช่น 2% ในสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม Lazada มีการประกาศปรับเพิ่มค่าธรรมเนียม Marketplace Commission ตั้งแต่กรกฎาคม 2025 และผู้ขายใหม่อาจได้รับสิทธิ์ 0% คอมมิชชันในช่วง 90 วันแรก

ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน (Payment Fee)

ค่าธรรมเนียมนี้เกี่ยวข้องกับการประมวลผลการชำระเงินของลูกค้า คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดสุทธิ (หลังหักส่วนลด) ที่เรียกเก็บต่อรายการสั่งซื้อ โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2.24% (รวม VAT) ค่าธรรมเนียมนี้ครอบคลุมบริการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน

ค่าขนส่ง (Shipping Fee)

Lazada มักจะแบ่งค่าขนส่งระหว่างผู้ขายและลูกค้า โดยลูกค้าจะจ่ายตามขนาดผลิตภัณฑ์ที่ผู้ขายระบุ ส่วนค่าจัดส่งที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบจะคำนวณตามขนาดพัสดุจริงและจะถูกหักจากบัญชีผู้ขาย มีรายงานว่าค่าธรรมเนียมการจัดส่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ขายต้องนำมาพิจารณาในการคำนวณต้นทุน

กลยุทธ์คำนวณกำไร: ไม่ให้ “เข้าเนื้อ”

การคำนวณกำไรที่แม่นยำต้องครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกส่วน นี่คือสูตรและแนวคิดสำคัญที่คุณสามารถนำไปใช้ได้:

สูตรการคำนวณกำไรสุทธิ (Net Profit)

{กำไรสุทธิ} = {ราคาขายสินค้า} – {ต้นทุนสินค้า} – {ค่าคอมมิชชัน} – {ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม} – {ค่าธรรมเนียมบริการ (ถ้ามี) – {ค่าจัดส่งที่ผู้ขายรับผิดชอบ (ถ้ามี) – {ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (เช่น ค่าการตลาด, ค่าแพ็คของ, ภาษี)

ตัวอย่างการคำนวณ:

สมมติว่าคุณขายสินค้าในราคา 500 บาท มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้:

  • ต้นทุนสินค้า (COGS): 200 บาท
  • ค่าคอมมิชชัน: 5% ของราคาขาย = 5% * 500 = 25 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: 2.24% ของราคาขาย = 2.24% * 500 = 11.20 บาท
  • ค่าธรรมเนียมบริการ (เช่น Free Shipping Program): 5.6% ของต้นทุนสินค้า (สมมติ) = 5.6% * 200 = 11.20 บาท
  • ค่าจัดส่งที่ผู้ขายรับผิดชอบ: 20 บาท
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ค่าแพ็คของ, ค่าการตลาดเล็กน้อย): 5 บาท

กำไรสุทธิ = 500 – 200 – 25 – 11.20 – 11.20 – 20 – 5 = 227.60 บาท
การคำนวณนี้ช่วยให้เห็นกำไรที่แท้จริงหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว

เครื่องมือช่วยคำนวณและการวิเคราะห์ด้วย AI

ในยุคดิจิทัลนี้ การใช้เครื่องมือคำนวณเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น:

  • เครื่องมือคำนวณของแพลตฟอร์ม: Shopee และ Lazada มักมีเครื่องมือหรือหน้าสรุปค่าธรรมเนียมใน Seller Center ซึ่งช่วยให้คุณเห็นภาพรวม
  • เครื่องมือคำนวณของบุคคลที่สาม: มีเว็บไซต์และปลั๊กอิน Chrome มากมายที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยคำนวณกำไรบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ เช่น Ecommerce Profit Calculator, Shopify’s Profit Margin Calculator, หรือ BigSeller ที่ช่วยคำนวณค่าธรรมเนียมใน Lazada ได้อัตโนมัติ
  • สเปรดชีท Excel/Google Sheets: สำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น คุณสามารถสร้างตารางคำนวณของตัวเอง โดยใส่สูตรตามค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อปรับเปลี่ยนและทดลองสถานการณ์ได้
  • การใช้ AI เพื่อการวิเคราะห์ขั้นสูง: สำหรับธุรกิจที่มีปริมาณการขายสูง การเชื่อมต่อ API ของแพลตฟอร์มเข้ากับเครื่องมือ AI-driven สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ คาดการณ์แนวโน้ม และแนะนำการปรับราคาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกำไรได้ ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์ Big Data จากยอดขายเก่า เพื่อคาดการณ์กำไรในอนาคตและปรับกลยุทธ์การตั้งราคาแบบไดนามิก
    ขอแนะนำให้คุณสร้าง “เครื่องคิดเลขส่วนตัว” ใน Excel/Google Sheets สำหรับแต่ละแพลตฟอร์มที่คุณใช้ขาย เพื่อให้สามารถคำนวณกำไรต่อออเดอร์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ความสำคัญของ Volumetric Weight ในการคำนวณค่าขนส่ง

หนึ่งในค่าใช้จ่ายที่มักถูกมองข้ามแต่มีผลกระทบอย่างมากต่อกำไรคือค่าขนส่ง โดยเฉพาะการคำนวณจากน้ำหนักปริมาตร (Volumetric Weight) หากสินค้าของคุณมีขนาดใหญ่แต่น้ำหนักเบา ค่าขนส่งอาจสูงกว่าที่คาดไว้มาก การลดขนาดบรรจุภัณฑ์ หรือการเลือกใช้บริการขนส่งที่เหมาะสมกับลักษณะสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและแนวโน้มปี 2025

เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองพิจารณาการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมหลักระหว่าง Shopee และ Lazada พร้อมแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2025

ประเภทค่าธรรมเนียมShopee (ประมาณการปี 2025)Lazada (ประมาณการปี 2025)ข้อสังเกตและแนวโน้ม
ค่าคอมมิชชัน (Commission Fee)Marketplace: 1-7.63% (ขึ้นกับประเทศ/สินค้า)
Mall Seller: 3-5%
Marketplace: 0% (90 วันแรกสำหรับผู้ขายใหม่), 2-X%
LazMall: 4-7% (ดิจิทัลสูงสุด 21.5%)
ทั้งคู่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในบางหมวด/ประเทศ โดยเฉพาะสำหรับ Mall/LazMall Sellers
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม / ชำระเงิน2-3.78% (รวม VAT/SST) ของยอดรวมที่ลูกค้าจ่าย2.24% (รวม VAT) ของยอดสุทธิหลังหักส่วนลดคล้ายคลึงกัน แต่ Shopee อาจคำนวณจากยอดที่กว้างกว่า
ค่าธรรมเนียมบริการ (โปรแกรมพิเศษ)Cashback: 3.36% ของ COGS
Free Shipping: 5.6% ของ COGS
ไม่มีระบุชัดเจนเหมือน Shopee (ส่วนใหญ่รวมในคอมมิชชันหรือค่าใช้จ่ายแฝง)Shopee มีค่าบริการแยกสำหรับโปรแกรมส่งเสริมการขาย
ค่าขนส่ง (Shipping Fee)คำนวณตาม Volumetric Weight (ผู้ขายอาจมีค่ารับผิดชอบ/ค่าจัดการเพิ่ม)แบ่งระหว่างผู้ขาย-ลูกค้า (ผู้ขายรับผิดชอบส่วนที่ Lazada คำนวณ)ทั้งคู่มีแนวโน้มค่าขนส่งเพิ่มขึ้น ผู้ขายต้องระวัง Volumetric Weight
นโยบายสำหรับผู้ขายใหม่บางครั้งมีโปร 0% คอมมิชชันชั่วคราว0% คอมมิชชัน 90 วันแรกทั้งคู่พยายามดึงดูดผู้ขายใหม่ด้วยข้อเสนอพิเศษ

มุมมองกฎหมายและภาษีที่ไม่ควรมองข้าม

นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มแล้ว ผู้ประกอบการออนไลน์ยังต้องคำนึงถึงประเด็นทางกฎหมายและภาษี เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างถูกต้องและยั่งยืน

การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT/GST/SST)

ในหลายประเทศ เช่น ประเทศไทย หากมีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการเกินเกณฑ์ที่กำหนด (เช่น 1.8 ล้านบาทต่อปีในประเทศไทย) ผู้ประกอบการมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การไม่ปฏิบัติตามอาจส่งผลให้ถูกปรับและถูกประเมินภาษีย้อนหลังได้ การเข้าใจว่าราคาขายของคุณ “รวมภาษี” หรือไม่ และการแยก VAT ออกจากรายได้ที่แท้จริงเป็นสิ่งสำคัญในการทำบัญชี

เอกสารรองรับค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมที่แพลตฟอร์มเรียกเก็บถือเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจที่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้น การเก็บ Statement หรือใบเสร็จจาก Seller Center ของ Shopee และ Lazada ไว้เป็นหลักฐานอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น

การบันทึกบัญชีและการทำบัญชีภาษี

สำหรับผู้ที่ขายสินค้าในหลายประเทศ หรือมีรายได้จากหลายช่องทาง การแยกบัญชีและทำบัญชีให้ถูกต้องตามกฎหมายภาษีของแต่ละประเทศเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การใช้ระบบบัญชีที่รองรับการจัดการหลายสกุลเงินและภาษีที่แตกต่างกันจะช่วยลดความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมายภาษี

นโยบายคืนเงินและข้อพิพาท

การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามนโยบายการคืนเงิน การเปลี่ยนสินค้า และการจัดการข้อพิพาทของแพลตฟอร์มเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ หรือผลกระทบต่อคะแนนความน่าเชื่อถือของผู้ขาย การมี Standard Operating Procedure (SOP) ที่ชัดเจนจะช่วยให้ทีมงานสามารถจัดการสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปตามข้อกำหนด

กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA/GDPR)

หากมีการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ภายนอก หรือ AI ในการประมวลผลข้อมูลการขายและลูกค้า ผู้ประกอบการต้องตระหนักถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การรับรองว่าข้อมูลลูกค้าได้รับการเข้ารหัสและจัดการอย่างปลอดภัย รวมถึงการขอความยินยอมที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

ยกระดับการจัดการด้วย AI และเทคโนโลยี

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ทางการเงิน ผมมองเห็นโอกาสมากมายในการนำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการค่าธรรมเนียมและเพิ่มกำไร:

  • การตั้งราคาแบบ Dynamic Pricing: ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด ค่าธรรมเนียมแบบเรียลไทม์ และพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อปรับราคาขายให้เหมาะสมที่สุด ช่วยให้สามารถทำกำไรได้สูงสุดในแต่ละช่วงเวลา
  • การจัดการสต็อกและโลจิสติกส์: AI สามารถช่วยคาดการณ์ความต้องการสินค้าได้อย่างแม่นยำ ลดปัญหาของสินค้าคงคลัง และช่วยให้เลือกวิธีการจัดส่งที่ประหยัดต้นทุนที่สุด โดยคำนึงถึง Volumetric Weight
  • ระบบแจ้งเตือนและจำลองสถานการณ์: พัฒนาระบบที่แจ้งเตือนเมื่อแพลตฟอร์มมีการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียม พร้อมจำลองผลกระทบต่อกำไรของทุก SKU และแนะนำการปรับราคาโดยอัตโนมัติ
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายโฆษณา: ใช้ AI ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา (เช่น MER/ACOS) โดยเชื่อมโยงกับการคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนด้านการตลาดนำมาซึ่งผลกำไรที่คุ้มค่า

การลงทุนในเครื่องมือและระบบเหล่านี้อาจต้องใช้ทักษะทางเทคนิคและงบประมาณในระดับหนึ่ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น การตัดสินใจที่ชาญฉลาดขึ้น และการเติบโตของธุรกิจที่ยั่งยืน

สรุปและคำแนะนำเพิ่มเติม

การขายสินค้าบน Shopee และ Lazada ในปี 2025 เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ การคำนวณต้นทุนและกำไรอย่างแม่นยำในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทุนสินค้าไปจนถึงค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม ค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันไม่ให้ธุรกิจของคุณ ‘เข้าเนื้อ’
ผมขอแนะนำให้ผู้ประกอบการทุกท่านหมั่นตรวจสอบประกาศและอัปเดตนโยบายค่าธรรมเนียมจาก Seller Center ของทั้ง Shopee และ Lazada อย่างสม่ำเสมอ และใช้เครื่องมือคำนวณกำไร ทั้งแบบพื้นฐาน (Excel) ไปจนถึงขั้นสูง (AI-driven tools) เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
จำไว้ว่า กำไรที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ยอดขายที่สูงเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการตั้งราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเพิ่มเติม ผมได้รวบรวมวิดีโอที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการคำนวณค่าธรรมเนียม Shopee และ Lazada มาให้คุณแล้ว

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ค่าธรรมเนียม Shopee และ Lazada มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยแค่ไหน?

ค่าธรรมเนียมของทั้ง Shopee และ Lazada มีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ตามนโยบายของแพลตฟอร์มและสภาวะตลาด โดยเฉพาะในปี 2025 มีรายงานการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมหลายประเภทในหลายประเทศ ผู้ขายควรอ้างอิงข้อมูลล่าสุดจาก Seller Center ของแต่ละแพลตฟอร์มในประเทศตนเอง

ผู้ขายใหม่ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมหรือไม่?

ทั้ง Shopee และ Lazada มักจะมีโปรแกรมส่งเสริมการขายสำหรับผู้ขายใหม่ เช่น Lazada มีนโยบาย 0% คอมมิชชันสำหรับผู้ขายใหม่ในช่วง 90 วันแรกหลังลงทะเบียน ผู้ขายควรตรวจสอบข้อเสนอพิเศษเหล่านี้ ณ เวลาที่สมัคร

การเข้าร่วมโปรแกรม Free Shipping หรือ Cashback ของแพลตฟอร์มคุ้มค่าหรือไม่?

การเข้าร่วมโปรแกรมเหล่านี้สามารถเพิ่มโอกาสในการขายและดึงดูดลูกค้าได้ แต่ก็มีค่าธรรมเนียมบริการที่ต้องจ่าย ผู้ขายต้องคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้อย่างละเอียด และประเมินผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ เพื่อให้แน่ใจว่าโปรแกรมนั้นคุ้มค่ากับกำไรที่ลดลงไป

การใช้เครื่องมือคำนวณกำไรของบุคคลที่สามปลอดภัยหรือไม่?

เครื่องมือคำนวณกำไรของบุคคลที่สามหลายตัวมีความน่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรเลือกใช้เครื่องมือที่มีรีวิวดี และตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูล เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลธุรกิจของคุณ